ใครฝันว่าเรียนจบแล้ว อยากทำงานที่ญี่ปุ่น มาฟังเรื่องราวจากพี่ยอด MatE#13 กันเลย…
พี่ยอด เพิ่งเป็นบัณฑิตป้ายแดงรุ่นล่าสุด แต่ได้งานทำที่ญี่ปุ่นเร็วมาก ลองดูเทคนิคเตรียมพร้อมจากพี่เค้ากัน…พี่ยอดฝากเกร็ดแนวคิดและประสบการณ์ดีๆ ในการทำงานในแดนปลาดิบมาให้พวกเราเยอะเลย…
ปล. ภาพประกอบพี่ยอดนี่เน้นเที่ยว เน้นกิน แทบไม่มีภาพตอนทำงาน แสดงว่า เวลาทำงานทำจริง ไม่พกมือถือ แต่เวลาว่าง ไม่มีพลาดออกเที่ยวเล่น แบ่งเวลาเก่งจริงๆ 555
Story Cr. Yod Traipakwasin
############
#MatE: แรงบันดาลใจที่ไปสมัครงานบ. ญี่ปุ่น?
ตอนเด็กๆชอบญี่ปุ่นครับ เลยเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่เรียนได้ซักพักแล้วก็ทิ้งครับ รู้สึกเสียดายครับ ทั้งๆที่ชอบก็เลยคิดว่าถ้าเป็นไปได้อยากลองมีความรู้สึกแบบมนุษเงินเดือนญี่ปุ่นดูครับ ก็เลยลองสมัครเล่นๆตอนบริษัทมารับสมัครที่ภาควิชาครับ
จำได้ว่าเรซูเม่เขียนก่อนสัมภาษคืนนึง ตอนยืนก็แอบอายครับทำมาลวกๆ พอดีได้เพื่อนๆช่วยตอนสัมภาษด้วยแหละครับเลยสมัครได้
#MatE: ตอนนี้ทำงานกับบริษัทและความรับผิดชอบอะไร?
ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัท KEIHIN , Tochigi Research and Development จังหวัดโทชิกิ ญี่ปุ่นครับ,แผนกทดสอบและวิจัยวัสดุครับ ภายใต้ CBS Techno ซึ่งเป็นบริษัท Recruit ครับ
#MatE: รูปแบบการสมัครทำงานที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?
การสมัครทำงานที่ญี่ปุ่นมี 2 วิธีครับ คือสมัครกับบริษัทตรงๆ หรือ บริษัทที่เป็น Recruit ครับ ก็จะมีข้อดีข้อเสียคนละอย่างครับ
สมัครตรงมีข้อดี คือ เข้าได้แล้วจบเลยครับ แล้วก็สวัสดิการจะดีกว่าครับ(จากที่เคยถามมา) เงินเดือนอาจจะสูงกว่าเล็กน้อยครับ ข้อเสียคือ เข้ายากครับ
เข้าบริษัทที่เป็น Recruit มีข้อดีคือเข้าง่ายกว่าครับแล้วก็ได้งานแน่ๆครับ แต่ข้อเสียคือเหนื่อยกว่านิดหน่อยครับ ต้องสัมภาษหลายครั้งครับ บริษัทที่ได้นี่ไม่ค่อยแน่นอนครับ แล้วก็ทำรีพอร์ตส่งบริษัทRecruitครับ
#MatE: ก่อนเริ่มงาน ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง?
การเตรียมพร้อมในการทำงานที่นี่คือเตรียมใจครับแนะนำให้เตรียมไว้เกิน100% เพราะว่าท้อแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเข้าแบบไหนก็สำคัญมาก โดยเฉพาะภาษาครับ เราต้องเริ่มเรียนภาษาใหม่เลยครับ ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆ ตอนเรียนนี่ค่อนข้างเหนื่อยครับ เนื่องจากเป็นบริษัทRecruitเค้าต้องการให้เราเป็นไวๆ แต่ก็ท้าทายดีครับ ต่อไปก็มนุษยสัมพันธ์ครับ เนื่องจากเค้าจะมองว่าเราเป็นคนต่างประเทศครับ ช่วงแรกๆจะได้รับความสนใจมาก ซึ่งจะตรงกับช่วงที่ภาษาญี่ปุ่นเราอ่อนอยู่ครับ (ฮา….) ก็ยิ้มแล้ว พยายามพูดครับ ถึงจะผิดๆ ติดๆขัดๆก็ช่างมันครับ
#MatE: แล้ว Culture การทำงานและ lifestyle ของคนญี่ปุ่นแตกต่างกับไทยมาไหม?
พอเริ่มทำงานก็มีหลายๆเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจครับ เช่น คนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยพูดอะไรตรงๆครับ ถ้าเค้าบอกว่าทำแบบง่ายๆก็พอ แปลว่าให้ทำจริงจังครับ ถ้าบอกว่ายากก็หมายถึงยังไงนายต้องทำให้ได้นะ แล้วก็เรื่องตรงเวลาอันนี้สำคัญมากกก!!! ตอนเช้าจะมีการรายงานทุกเช้าครับว่าวันนี้จะทำอะไร (ถ้ามาไม่ทันนี่อาจล่มจมได้ครับชีวิต) แล้วก็ญี่ปุ่นเค้าให้ความสำคัญกับคนมากครับ เนื่องจาก ช่วงแรกก็ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยสนใจหัวหน้าเท่าไหร่ครับ แต่พอหลังๆนี้รู้สึกตัวครับ ว่าหัวหน้าจะคอยประเมิณเราเรื่อยๆ ว่าทำงานเป็นไง ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเป็นไง หัวหน้ามาทีนี่นั่งเกร็งเลยครับ
#MatE: ความรู้จากวัสดุศาสตร์ เป็นประโยชน์ในสายงานไหม?
ความรู้ที่เรียนมานะครับ บอกเลยว่าใช้เต็มๆ 80%ได้ครับโดยเฉพาะโลหะแล้วก็เครื่องมือทดสอบครับ อาจจะมีเรื่องที่ลึกขึ้นครับตามสายงานครับ
#MatE: มีอะไรฝากถึงน้องๆ บ้างไหม?
ฝากถึงน้องๆที่ยังเรียนอยู่ไม่ว่าจะมหาลัยหรือม.ปลายนะครับ อย่างแรกคืออยากทำอะไรในอนาคตให้หาตัวเองไวๆครับ ถ้ามหาลัยแล้วก็พยายามเรียนครับ เกรดดีมีชัยไปกว่าครึ่ง อย่างที่สองคือภาษาครับ ภาษาอังกฤษขอให้เมพๆครับ แล้วก็ถ้ามีภาษาที่3อยากเรียนก็อย่ารอช้าครับ อย่างสุดท้ายคือ อย่าท้อครับไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็มีอุปสรรค สู้ๆ(บอกตัวเองทั้งนั้น 555)