วันนี้ เราได้พี่พิมุกต์ Mat-E18, E71, KU75 มาแชร์อีกสายงานของชาววิศวกรรมวัสดุ ได้แก่งานทางด้านวิศวกรรมการกัดกร่อนและการป้องกัน ที่ถือว่าเป็นสายงานสำคัญของโครงสร้างสาธารณูปโภค เครื่องจักร โรงงาน ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ต้องมีวิศวกรคอยตรวจสอบ ดูแล วางแผน เพื่อให้การใช้งานปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน
พี่พิมุกต์ ทำงานในส่วนของ Cathodic Protection Technician ที่ผ่านการอบรมมาตรฐานสากลของ NACE : National Association of Corrosion Engineers ทำงานรับผิดชอบในงานควบคุมระบบการป้องกันการกัดกร่อนแบบแคโทดิก (มาเรียนหลักพื้นฐานที่ภาคเราได้ครับ) สำหรับระบบโครงสร้างใต้ดินและใต้น้ำ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เช่น ระบบท่อก๊าซใต้ดิน
เราลองไปรู้จักสายงานด้านนี้จากพี่พิมุกต์กันครับ
#############
#MatE_KU : สวัสดีครับ กวนพี่พิมุกต์ช่วยแนะนำตัวด้วยครับ
#พี่พิมุกต์ : ผมชื่อ พิมุกต์ ขำวรุณ จบจากภาควิชาวิศวกรรมวัสดุ รุ่น MAT-E 18 รุ่น KU75 และวิศวกรรมศาสตร์รุ่น E71 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครับ
#MatE_KU : พอจะแนะนำสายงานที่ทำอยู่ปัจจุบันได้ไหมครับ
#พี่พิมุกต์ : ปัจจุบันทำงานที่ บริษัท CPE Engineering and Service ในตำแหน่ง Cathodic Protection Technician (NACE CP2) และ Business Development
โดยในส่วนงาน จะรับผิดชอบงานด้านการสำรวจ ตรวจสอบ วิเคราะห์ และซ่อมแซมระบบการป้องกันการกัดกร่อนแบบแคโทดิก หรือ Cathodic Protection (CP) สำหรับโครงสร้างใต้ดินและใต้น้ำ รวมถึงการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่องครับ
#MatE_KU : ในสายงานที่ทำอยู่ ได้ใช้ความรู้ที่เรียนจากภาควิชาวิศวกรรมวัสดุ อย่างไรบ้างครบั
#พี่พิมุกต์ : จากการเรียนในภาควิชาวิศวกรรมวัสดุ วิชาที่ได้ใช้จริงในการทำงาน เช่น การกัดกร่อน (Corrosion), โลหะวิทยากายภาพ (Physical Metallurgy) และ วัสดุและอุปกรณ์ทางไฟฟ้าแม่เหล็กแสง (Electromagnetooptic Materials and Devices) ช่วยให้ผมเข้าใจการทำงานของระบบ Cathodic Protection ในเชิงลึกได้ดีครับ เพราะเทคนิคการป้องกันการกัดกร่อนนี้ ต้องมีความรู้พื้นฐานด้าน โลหะวิทยา การกัดกร่อน รวมไปถึงสมบัติทางไฟฟ้าของวัสดุ เนื่องจากเป็นการใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้ามาป้องกันการกัดกร่อน ครับ
ดังนั้น การเรียนรายวิชาเหล่านี้ในหลักสูตร ทำให้เรามีพื้นฐานที่พร้อมเรียนรู้ต่อยอดในสายงาน ทั้งในด้านการป้องกันการกัดกร่อน สมบัติของโลหะ และ การทำงานทางไฟฟ้าในวัสดุต่างๆ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และให้คำปรึกษาด้านเทคนิคได้อย่างมั่นใจ
อีกทั้งการได้เข้าร่วมกิจกรรมและเรียนวิชาที่เกี่ยวกับนวัตกรรมที่ปูพื้นฐานหลัก Design Thinking ทำให้ช่วยเสริม ทัศนคติที่เปิดกว้าง และ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งพัฒนา ทักษะคิดเชิงนวัตกรรม ช่วยให้เราต่อยอดความรู้ได้ดีขึ้นในงานด้าน Business Development และ สามารถมองเห็นแนวทางใหม่ๆ ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
#MatE_KU : พี่พิมุกต์มีคำแนะนำสำหรับน้องๆ ที่สนใจสายงานด้านนี้ ให้เตรียมพร้อมอย่างไรดีครับ
#พี่พิมุกต์ : ในสายงาน Cathodic Protection ควรเตรียมความพร้อมในด้านพื้นฐานทางไฟฟ้าเคมี (Electrochemistry) หลักการกัดกร่อน พื้นฐานโลหะการ โครงสร้างอิเล็กทรอนิกส์ของวัสดุ การนำไฟฟ้าในวัสดุ การคัดเลือกวัสดุและการออกแบบทางวิศวกรรม รวมถึงการวิเคราะห์ความวิบัติและการป้องกัน ซึ่งพื้นฐานที่พูดมาเหล่านี้ ดูเหมือนจะหลากหลาย แต่ภาควิชาฯเรามีเปิดสอนให้หมดครับ
ส่วนทักษะที่ควรมีคือทัศนคติที่เปิดกว้างพร้อมเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ใหม่ๆ และหาวิธีแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ครับ ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้จาก กิจกรรมเสริมที่ภาควิชาฯมีเตรียมให้ รวมไปถึงรายวิชาด้าน Innovative Thinking ครับ
###############
ขอบคุณพี่พิมุกต์ ที่สละเวลามาแชร์สายงานที่น่าสนใจให้น้องๆนะครับ พี่พิมุกต์ได้ไปเยี่ยมน้องๆที่ระยองตอนรับน้องปีหนึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ก็ได้เจอกับพี่ๆคนอื่นๆที่กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและปิโตรเลียม ก็ล้วนได้ใช้บริการบริษัทพี่พิมุกต์สำหรับระบบ Cathodic Protection เพราะถือเป็นระบบสำคัญของการป้องกันการกัดกร่อนในโรงงานเลยครับ
พี่พิมุกต์ระหว่างเรียน พี่บอกว่าแรกๆจะไม่ค่อยพูดเยอะ แต่พอได้เริ่มเข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันทางนวัตกรรม อบรมกิจกรรม design thinking ก็ทำให้สนุกไปกับการทำงานกับทีม และสนุกกับการได้แสดงความเห็นแลกเปลี่ยนกับเพื่อน พี่พิมุกต์เลยแนะนำน้องๆให้ร่วมกิจกรรมเยอะๆ เพื่อผลักดันศักยภาพตัวเองที่ซ่อนอยู่ครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ แล้วไว้เจอกันตามสถานอบรมด้านการกัดกร่อนนะครับ อาจจะได้ไปเป็นลูกศิษย์พี่พิมุกต์
#วิศวกรรมวัสดุพร้อมบวก#MatE_KU_Plus
